ประเทศไทย มีสภาพอากาศร้อนตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ทั้งยังมีความชื้นสูง ทำให้เกิดปัญหาความร้อนสะสมภายในอาคาร ส่งผลให้พนักงานรู้สึกไม่สบายตัว และปฏิบัติงานได้ไม่เต็มที่ รวมถึงสินค้าที่ผลิตออกมาในแต่ละล็อต อาจเสียหายจากอุณหภูมิที่ไม่คงที่
ดังนั้น การติดตั้งฉนวนกันความร้อน จึงช่วยเข้ามาลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และควบคุมอุณหภูมิในอาคารให้คงที่ ในบทความนี้ จะมาแนะนำวิธีเลือกฉนวนกันความร้อน ให้เหมาะสมกับโรงงานอุตสาหกรรมทุกรูปแบบ หากพร้อมแล้ว เราไปดูกัน

เรื่องน่ารู้ วิธีเลือกฉนวนกันความร้อน ให้เข้ากับโรงงาน
อย่างที่ทราบกันดีว่า สภาพอากาศร้อนชื้นของไทย มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ เพราะไม่เพียงแค่อุณหภูมิสูงเท่านั้น แต่ยังมีความชื้นสัมพัทธ์ที่สูง ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกร้อนอบอ้าว ไม่สบายตัว ทั้งยังเกิดอาการลมแดดได้ง่าย
ดังนั้น การเลือกฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสมจึงมีข้อดี และประโยชน์หลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดอุณหภูมิ และความร้อนภายในอาคารได้ ลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ทั้งยังช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว และเพิ่มความสบายภายในอาคาร โดยฉนวนกันความร้อนมีด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่
- ฉนวนไฟเบอร์กลาส (Fiberglass Insulation)
ฉนวนไฟเบอร์กลาส ผลิตจากเส้นใยแก้วที่มีคุณสมบัติทนความร้อนสูง น้ำหนักเบา และติดตั้งง่าย เหมาะกับการใช้งานทั้งในบ้านพักอาศัย รวมถึงอาคารพาณิชย์แบบต่าง ๆ โดยข้อดีของฉนวนไฟเบอร์กลาส คือ ช่วยป้องกันความร้อนได้ดี ไม่ติดไฟ ติดตั้งง่าย และน้ำหนักเบา เรียกได้ว่าเป็นฉนวนกันความร้อน ที่เข้ากับทุกอาคารอย่างแท้จริง
- ฉนวนโพลีเอทิลีน (Polyethylene Foam)
ฉนวนโพลีเอทิลีน เป็นฉนวนที่มีโครงสร้างแบบเซลล์ปิด ช่วยป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำ และความร้อนได้ดี นิยมใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการป้องกันความชื้นสูง โดยข้อดีของฉนวนโพลีเอทิลีน คือ ป้องกันความชื้นได้ดี และไม่ดูดซับน้ำ แต่ข้อเสียที่ราคาของฉนวนชนิดนี้ จะสูงกว่าฉนวนทั่วไป ซึ่งผู้ประกอบการ อาจต้องเสียค่าซ่อมบำรุงอาคาร ในราคาที่สูงกว่าปกติ

- ฉนวนโพลิโอเลฟินส์ (Polyolefins Insulation)
ฉนวนโพลิโอเลฟินส์ เป็นวัสดุฉนวนที่พัฒนาให้มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าแบบดั้งเดิม ไม่เพียงแต่ช่วยลดความร้อน แต่ยังช่วยป้องกันปัญหา ที่มาพร้อมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยได้เป็นอย่างดี รวมถึงโดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่รักษาสภาพแวดล้อม ได้ดีกว่าฉนวนกันความร้อนประเภทอื่น
ทั้งนี้ ฉนวนโพลิโอเลฟินส์ เป็นฉนวนที่ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าแบบดั้งเดิม จึงเหมาะสำหรับบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และโรงงานอุตสาหกรรมอย่างยิ่ง โดยจุดเด่นของฉนวนกันความร้อนโพลิเอเลฟินส์ ที่ผู้ประกอบการควรรู้ มีดังต่อไปนี้
- ไม่ลามไฟ: ปลอดภัยจากไฟไหม้ เพราะไม่ติดไฟง่ายเหมือนฉนวนกันความร้อนบางประเภท
- ทนความชื้นสูง: มีโครงสร้างพิเศษ ช่วยป้องกันการสะสมของไอน้ำ
- ป้องกันเชื้อรา และแบคทีเรีย: ลดปัญหาสุขภาพจากสารก่อภูมิแพ้ ทำให้ดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานของพนักงานได้เป็นอย่างดี
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ไม่มีสารเคมีอันตราย และปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย
- ประหยัดพลังงาน: ลดความร้อนสะสม ช่วยลดค่าไฟในระยะยาว
ก็จบกันไปแล้วกับ วิธีการเลือกซื้อฉนวนกันความร้อน ให้เข้ากับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป ไปจนถึงโรงงานที่มีการใช้สารเคมีสูง โดยผู้ประกอบการควรค่อย ๆ พิจารณาจุดเด่นของฉนวนกันความร้อนแต่ละประเภท เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารให้คงที่อยู่เสมอ โดยไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษาอาคารเกินความจำเป็น
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.ampelite.co.th/