ฉนวนกันความร้อน เป็นแผ่นฉนวนที่มีหน้าที่ปกป้องความร้อน ที่จะส่งผ่านเข้ามาภายในอาคาร และสะท้อนรังสี UV ออกไป ส่งผลให้ความร้อนสะสมใต้หลังคาลดลง ซึ่งในปัจจุบันมีแผ่นฉนวนกันความร้อนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แต่หากยังไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหน ให้เหมาะสมกับโรงงานอุตสาหกรรมมากที่สุด แอมเพิลไลท์ ได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว ดังนี้

- ฉนวนใยแก้ว
ฉนวนใยแก้ว เป็นฉนวนที่ห่อหุ้มด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ โดยภายในประกอบด้วยใยแก้วเส้นเล็ก ที่ประสานกันจนเกิดเป็นโพรงอากาศ ทำหน้าที่กักความร้อนเอาไว้ด้านใน ทำให้ฉนวนใยแก้ว เป็นฉนวนที่นำความร้อนต่ำ ไม่ลามไฟ และป้องกันการเกิดเชื้อรา หรือไอระเหยที่ซึมผ่าน ทั้งยังช่วยดูดซับเสียงได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม หากนำฉนวนใยแก้วมาติดตั้ง ควรระวังเรื่องน้ำรั่วซึม เนื่องจาก เส้นใยจะยุบตัว เมื่อโดนน้ำ ความชื้น หรือถูกกดทับ อีกทั้งเมื่อติดตั้ง อาจมีการฟุ้งกระจายของเส้นใย ซึ่งพนักงานในโรงงาน อาจเกิดอาการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้
- ฉนวนใยหิน
ฉนวนใยหิน เป็นฉนวนป้องกันความร้อน ที่ผลิตจากหินบะซอลต์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อน และดูดซับเสียงได้ดี เหมือนกับฉนวนใยแก้ว แต่สามารถทนไฟได้ดี ไม่ลามไฟ และไม่ทำปฏิกิริยากับโลหะ ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เหมาะกับการใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีการใช้ความร้อนสูงอย่างยิ่ง
- ฉนวนเซรามิกไฟเบอร์
สำหรับฉนวนเซรามิกไฟเบอร์ คือ ฉนวนที่ผลิตจากเส้นใยต่าง ๆ เช่น อลูมินา ซิลิกา อลูมิโนซิลิเกต เซอร์โคเนีย ซิลิคอน คาร์ไบด์ ซิลิคอนไนไตรต์ และแกรไฟต์ เป็นต้น ทำให้เป็นฉนวนที่ทนความร้อนได้สูงถึง 1,260 – 1,400 องศาเซลเซียส เหมาะกับการใช้ร่วมกับฉนวนใยหิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการป้องกันความร้อน
- ฉนวนแคลเซียมซิลิเกต
แผ่นฉนวนกันความร้อนแคลเซียมซิลิเกต เป็นฉนวนป้องกันความร้อนที่ผลิตจากทราย ซิลิเซียส น้ำปูนขาว และเส้นใย ทำให้มีความแข็งแรงสูง ไม่เผาไหม้ ไม่ลามไฟ และปราศจากสารพิษ โดยสามารถป้องกันความร้อนได้สูงถึง 650 – 1,100 องศาเซลเซียส

- ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์
ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์ มีคุณสมบัติทนทานต่อความชื้น เหนียว ไม่ฉีกขาดได้ง่าย และไม่สะสมความร้อน เนื่องจาก ฉนวนประเภทนี้ เป็นอะลูมิเนียมฟอยล์แผ่นบาง ทำให้สามารถแผ่รังสีความร้อน ออกมาได้น้อย และสะท้อนความร้อนสูง
ทั้งนี้ ข้อควรระวังของฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์ คือ ความสามารถในการป้องกันความร้อน จากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคาร ค่อนข้างน้อยกว่าฉนวนประเภทอื่น จึงควรใช้งานร่วมกับฉนวนประเภทอื่น เพื่อให้อุณหภูมิในอาคารเย็นสบาย และไม่ร้อนอบอ้าว
มัดรวมข้อดีของ ฉนวนกันความร้อน พร้อมรับมือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
- ฉนวนเซลลูโลส
ฉนวนเซลลูโลส หรือฉนวนเยื่อกระดาษ เป็นฉนวนแบบฉีดพ่นใต้หลังคา ผลิตจากกระดาษที่ใช้แล้ว ทำให้เป็นฉนวนที่มีน้ำหนักเบา ป้องกันเสียงรบกวน และเชื้อราได้เป็นอย่างดี ทั้งยังไม่เป็นแหล่งอาหารของหนู ปลวก และแมลงสาบ ซึ่งเป็นสัตว์พาหะ ที่อาจเข้ามาตามท่อระบายน้ำ หรือช่องระบายอากาศ ภายในโรงงานอุตสาหกรรม
- ฉนวนโฟมยาง
ฉนวนโฟมยาง ถือเป็นอีกหนึ่งฉนวนกันความร้อน ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี เพราะโครงสร้างภายในแผ่น เป็นแบบเซลล์ปิด (Close-Cell) ทำให้มีความหนาแน่นมาก ป้องกันความชื้น ป้องกันเสียงรบกวน รวมถึงป้องกันการเกิดหยดเหงื่อ (Condensation) ได้อีกด้วย
- ฉนวนโพลิโอเลฟินส์
ฉนวนโพลิโอเลฟินส์ (Polyolefin) มีความยืดหยุ่นสูง เพราะมีโครงสร้างแบบเซลล์ปิด (Close-Cell) ทำให้ไม่ดูดซับน้ำ และความชื้น อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา และป้องกันการลามไฟได้ดี ตอบโจทย์โรงงานอุตสาหกรรม ที่มีปัญหาเรื่องของการควบแน่นของไอน้ำ รวมถึงต้องการฉนวน ในราคาที่เข้าถึงง่าย แต่มีคุณภาพ และใช้งานได้ยาวนาน
สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังพิจารณาเลือกแผ่นฉนวนกันความร้อน ควรตรวจสอบคุณสมบัติของวัสดุแต่ละประเภทอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเหมาะสมกับความต้องการใช้งานจริง การเลือกฉนวนที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานภายในอาคาร ทำให้บรรยากาศภายในสบาย ประหยัดพลังงาน และยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.ampelite.co.th/


