ประกันภัย

ข้อเสียของการไม่ทำประกันภัยรถยนต์

คำถามสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ แต่ไม่ค่อยได้นำออกมาใช้คงไม่พ้น “ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ได้ไหม?” “มีข้อเสียอะไร?” ซึ่งแท้จริงแล้ว ประกันภัยรถยนต์ที่เราทำกันอยู่นี้ เป็นประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจที่ไม่ทำก็ไม่ผิดกฎหมายข้อใด โดยจะแตกต่างจากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือพ.ร.บ. ที่ผู้ขับขี่ทุกคนจะต้องทำและต้องคอยต่ออายุอยู่เสมอๆ ถึงแม้ว่าประกันภัยรถยนต์จะไม่ทำก็ได้และไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็มีข้อเสียมากมายที่จะตามมาหากเกิดอุบัติเหตุใดๆ กับตัวรถยนต์

1.ไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้

บริษัทสินเชื่อรถยนต์บางแห่งมักจะบังคับให้ผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์ ทำประกันรถยนต์ให้ครอบคลุมช่วงระยะเวลาการผ่อนชำระ ซึ่งถือเป็นนโยบายเพื่อลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตของบริษัท แต่คุณสามารถเลือกชั้นประกันรถยนต์ได้ตามความสมัครใจ

2.ต้องจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดเอง

หากเกิดอุบัติเหตุที่คุณเป็นฝ่ายผิด คุณจะต้องจ่ายค่าชดเชยความเสียหายให้กับรถยนต์ของคุณและคู่กรณีด้วยตัวเอง หากรถยนต์ของคู่กรณีเป็นรถยนต์ที่มีราคาแพง ก็อาจจะมีค่าซ่อมที่สูงกว่าค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายในแต่ละปีด้วยซ้ำ

3.มีคนขับรถมาชน ก็ต้องจ่ายเอง

หากคุณเป็นคนที่ขับรถดีมาตลอด แต่วันหนึ่งเกิดมีคนขับรถมาชน หากไม่มีประกันภัยรถยนต์ คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถด้วยตัวเอง แต่หากคู่กรณีของคุณมีประกันภัยรถยนต์ และบริษัทประกันฝ่ายนั้นจะชดใช้ความเสียหายให้ หรือคู่กรณีไม่มีประกันเช่นเดียวกัน แต่มีการเจรจาต่อรองและจ่ายค่าชดเชยให้ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่คุ้มค่ากับการเสียเวลาเจรจา หรือนำรถยนต์ไปซ่อมด้วยตัวเองอยู่ดี

4.ต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง

หากเกิดอุบัติเหตุใดๆ คุณจะต้องเป็นผู้จัดการทุกอย่างเอง ตั้งแต่เจรจากับคู่กรณี เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทำให้คุณอาจจะเสียเปรียบจากคู่กรณีได้ เพราะไม่มีเจ้าหน้าเข้ามาช่วยดูแล และหากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่มีผู้เสียชีวิตและคุณเป็นฝ่ายผิด คุณจะต้องจ่ายเงินและสู้คดีด้วยตัวเอง

5.น้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย ก็ไม่ได้ค่าชดเชย

หากคุณไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ และเกิดเหตุน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือโดนโจรกรรม คุณจะไม่ได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายใดๆ แต่หากมีประกันภัยรถยนต์ที่มีเงื่อนไขในการคุ้มครองกรณีเหล่านี้ อย่างน้อยคุณก็จะยังได้เงินชดเชยค่าเสียหายจากบริษัทประกันอยู่

 

ดังนั้น การทำประกันภัยรถยนต์ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากกว่าที่คุณคิด เพราะไม่ว่าคุณจะระมัดระวังในการขับรถยนต์มากเพียงใด อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเช่นกัน การมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันมาคอยจัดการเรื่องต่างๆ และเจรจากับคู่กรณีให้ก็คงจะทำให้คุณอุ่นใจมากกว่า นอกจากนี้หากนำค่าซ่อมแซมรถยนต์ที่คุณต้องจ่ายเอง เปรียบเทียบกับเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายต่อปีก็ถือว่า การซื้อประกันรถยนต์มีความคุ้มค่ากว่ามากๆ และหากใครสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ ยังไงก็อย่าลืมติดตาม Thai Insurance Hint ที่จะอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ให้คุณได้ทราบแบบจุใจ